อาลัยนักมานุษยวิทยาไทยในต่างแดน

อนุสรณ์ อุณโณ

เขียนถึง ดร. พัฒนา กิติอาษา เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556


ผมไม่ทันพี่พัฒนาตอนสมัยไปเรียนที่ University of Washington แต่ก็ได้มีโอกาสเจอแกสองสามครั้งสมัยเรียนที่นั่นซึ่งตอนนั้นแกสอนอยู่ที่ National University of Singapore

เจอกันครั้งแรกแกชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ทั้งที่บทความที่แกเพิ่งเสนอมีทั้งการพรรณาชีวิตของผู้คนที่ละเอียดละออและข้อถกเถียงทางทฤษฎีที่ล้ำสมัย กอปรกับการที่แกเป็นนักมานุษยวิทยาไทยเพียงคนเดียวที่สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ก็ชวนให้นักศึกษาปีหนึ่งอย่างผมอดฝันจะเจริญรอยตามเสียไม่ได้ เจอกันครั้งต่อมาแกรับฟังข้อวิจารณ์ของผมในเวทีวิชาการอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน จนนักศึกษาปีสองที่เพิ่งจะท่องโลกทฤษฎีและงานชาติพันธุ์วรรณาอย่างผมต้องรู้สึกเขินอายที่ไมรู้จักนำพาต่อความละเอียดอ่อนของชีวิตเอาเสียเลย พี่พัฒนาเป็นตัวอย่างของนักมานุษยวิทยาที่มีทั้งความมุ่งมั่นในทางทฤษฎี ความอนาทรต่อคนทุกข์ยาก และความเคารพในความเห็นของผู้อื่นที่ให้ผมได้เรียนรู้ไม่จบสิ้น

หลังเรียนจบและกลับมาสอนหนังสือที่เมืองไทยผมได้มีโอกาสเจอแกอีกสองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้คุยกันยาวเหมือนกับสมัยที่เจอกันในอเมริกา กระนั้นผมก็ได้ติดตามอ่านงานของแกเป็นระยะ โดยเฉพาะชิ้นที่ว่าด้วย “การเมืองเสื้อสี” ของคนอีสานผ่านงานอัตชาติพันธุ์วรรณาว่าด้วยการเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านของแก งานชิ้นนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่ชี้ให้เห็นว่าวิชามานุษยวิทยาจะสามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมได้อย่างไร

เราพบกันครั้งสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วเมื่อคราวที่แกมาพูดที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ธรรมศาสตร์ ในหัวข้อนักมานุษยวิทยาในสิงคโปร์ แกยังคงพูดถึงชีวิตของคนสามัญได้อย่างมีชีวิตชีวา ยังคงพางานชาติพันธุ์วรรณาไปสู่การถกเถียงทางทฤษฎีได้อย่างน่าทึ่ง อีกทั้งยังตอบคำถามและรับฟังข้อคิดเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าแกกำลังสู้อยู่กับโรคร้ายที่โอกาสจะหายแทบไม่มี ผมจำได้ดีถึงอ้อมกอดของแกก่อนที่เราจะอำลากัน มันมีทั้งความมุ่งมั่น ความศรัทธา และความเศร้าคละเคล้ากัน

เช้านี้ผมรับรู้เรื่องราวการจากไปของแกอย่างหดหู่ เพราะแม้จะรู้ดีว่าจะได้ยินข่าวนี้ในไม่ช้าแต่ก็ยังทำใจไม่ได้ว่าทำไมคนที่มีคุณค่าและหายากเข้าไปทุกทีเช่นนี้จึงต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร พี่พัฒนาคงจะมุ่งมั่นทำงานทางด้านมานุษยวิทยาที่มีคุณูปการต่อคนสามัญและสังคมต่อไปหากแกยังมีชีวิตอยู่ และผมเชื่อว่าแกก็คงอยากเห็นนักมานุษยวิทยาคนอื่นๆ ทำในสิ่งเดียวกันกับแก

หลับให้สบายครับพี่ รุ่นน้องคนนี้จะสานต่อปณิธานของคนสามัญอย่างพวกเรา