รายงานประจำปี คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ปีการศึกษา 2557-2558

TUSA AR 57-58 front cover
ปก: วัฒนสินธุ์ สุวรัตนานนท์

สารจากคณบดี


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อนุสรณ์ อุณโณ
คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ปี พ.ศ. 2558 เป็นปีมงคลสำหรับคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาเพราะเป็นปีที่คณะก่อตั้งมาได้ครบ 50 ปี เริ่มต้นจากการเป็นแผนกวิชาในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ในปี พ.ศ. 2508 แล้วแยกมาตั้งเป็นแผนกอิสระในปี พ.ศ. 2520 ก่อนจะสถาปนาเป็นคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2527 ในที่สุด นับเป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาระดับปริญญาตรีแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาคณะแรกและเพียงคณะเดียวในประเทศไทยมาจนกระทั่งบัดนี้

นอกจากในแง่สถานภาพ ในกึ่งศตวรรษที่ผ่านมาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ในส่วนของการเรียนการสอน ปัจจุบันคณะฯเปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา โดยระดับปริญญาตรีเปิดสอนหลักสูตรการวิจัยทางสังคมควบคู่ไปกับหลักสูตรปกติ ขณะที่ระดับบัณฑิตศึกษาเปิดสอนทั้งปริญญาโทและปริญญาเอก มีนักศึกษารวมกันทั้งสิ้นประมาณ 800 คน คณาจารย์ 30 คน กับเจ้าหน้าที่อีก 29 คน ขณะที่ในส่วนของการวิจัยและบริการวิชาการ คณะฯ มีพิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและศูนย์ศึกษาสังคมและวัฒนธรรมร่วมสมัยทำหน้าที่ด้านนี้อย่างเข้มแข็ง ทั้งในรูปของการประชุมประจำปี การเสวนาทางวิชาการ การวิจัย รวมถึงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในลักษณะต่างๆ นอกจากนี้ยังมีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการทำหน้าที่สนับสนุนทุนวิจัยแก่บุคลากรในคณะฯ รวมทั้งดำเนินกิจกรรมบริการวิชาการควบคู่ไปกับพิพิธภัณฑ์ฯ และศูนย์ฯ อย่างประสานเชื่อมโยงกัน

ประการสำคัญ ในปี พ.ศ. 2558 คณะฯ ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวาระที่คณะครบรอบ 50 ปีในหลายลักษณะ โดยนอกจากกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวันสถาปนาคณะฯวันที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2558 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพิธีกรรม การแสดงปาฐกถา การเสวนาทางวิชาการ การแสดงนิทรรศการ การเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงการจัดพิมพ์หนังสือและจัดทำของที่ระลึกประเภทต่างๆ ในวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2558 ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมวิชาการนานาชาติ IUAES Inter-Congress 2015: Re-imagining Anthropological and Sociological Boundaries ซึ่งเป็นการจัดประชุมวิชาการนานาชาติครั้งแรกนับแต่คณะฯ ก่อตั้งมา รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดประชุม IUAES Inter-Congress ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทั้งกิจกรรมวันสถาปนาคณะและการประชุมวิชาการนานาชาติประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ได้รับคำชมจากทุกฝ่าย และในปีนี้คณะฯ ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงเชิงกายภาพครั้งใหญ่ซึ่งหากแล้วเสร็จตามที่แผนที่วางไว้ คณะฯ ก็จะเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมาก ปี พ.ศ. 2558 จึงไม่เพียงแต่จะเป็นปีมงคลที่คณะมีอายุครบกึ่งศตวรรษ หากแต่ยังเป็นปีที่คณะฯ ได้ริเริ่มดำเนินกิจกรรมสำคัญอย่างคึกคักกระฉับกระเฉงเป็นอย่างยิ่ง

ความท้าทายจึงเป็นว่าคณะฯ จะอาศัยรากฐานที่ได้รับการวางไว้ค่อนข้างจะมั่นคงในกึ่งศตวรรษที่ผ่านมาก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไร และจะพัฒนารากฐานดังกล่าวต่อไปในลักษณะไหน เช่น การเรียนการสอนโดยเฉพาะในระดับบัณฑิตศึกษาซึ่งมีทั้งจุดแข็งและข้อท้าทายจะปรับเปลี่ยนอย่างไร จะเพิ่มเติมการวิจัยและบริการวิชาการในส่วนไหน รวมถึงจะพัฒนาความเป็นนานาชาติต่อไปอย่างไรโดยเฉพาะจากการที่คณะฯ เริ่มจะมีอาจารย์ชาวต่างประเทศมาสอน วิจัย และดำเนินโครงการตั้งแต่ภาคการศึกษา 2/2558 เป็นต้นไป อาจารย์จำนวนหนึ่งที่จะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในอนาคตอันใกล้จะเกื้อหนุนส่วนนี้ได้ในลักษณะไหน ไม่นับรวมโอกาสและความเสี่ยงจากการที่คณะฯต้องขึ้นกับ “ภายนอก” มากขึ้นเพราะความที่มหาวิทยาลัย “ออกนอกระบบ” ที่จะต้องร่วมกันขบคิดต่อไป ฯลฯ กระนั้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่ายที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เจ้าหน้าที่ ศิษย์เก่า หรืออาจารย์เกษียณ ผมมีความเชื่อมั่นว่าคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาจะยังเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างมั่นคงหลังจากมีอายุล่วงมาแล้วกึ่งศตวรรษ